เบื้องหลังนิยายเรื่องคู่แฝดคู่ใจสานใยรัก ตอนที่ 6
ก็เพราะพล็อตมันตันไง เขียนไม่ออก
พอขึ้นเรื่องใหม่
เราก็ต้องเปลี่ยนพล็อตเปลี่ยนแนวใช่ป่ะ
มันก็ตันสิคะ
เพราะไม่มีประสบการณ์ค่ะ สำนวนก็ไม่สมดุล ยิ่งเป็นเด็กเนี่ยประสบการณ์อะไรก็แทบจะไม่มีเลย นอกจากเรื่องเรียนกับเพื่อนและครอบครัว ถ้าบางคนฐานะดีก็อาจจะมีเรื่องเที่ยวเข้ามาเสริม
ส่วนเรื่องความรักหรือความเกลียดก็นึก ๆ
ฝัน ๆ เอาค่ะ
ก็เด็กนี่คะยังไม่รู้จักหรอกว่าความรักความเกลียดเป็นยังไง แค่รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบเท่านั้นเอง แต่ก็พอกลบเกลื่อนไปได้ พล็อตมันก็เลยวนซ้ำซากอยู่แค่นั้นแหละค่ะ เลยเหมือนไม่ค่อยมีอะไรพัฒนา สมัยก่อนจะมีนิยายแบบนี้เยอะค่ะ แต่เราก็ยังตามอ่านอยู่ค่ะ 55555
ที่บอกว่าพล็อตวนซ้ำซากหมายถึงว่าเขียนตามเค้าโครงเรื่องเดิม
แต่เปลี่ยนตัวละครกับฉากและเหตุการณ์อีกนิดหน่อย นอกนั้นยืนพื้นตามเค้าโครงเดิมเป๊ะ แทบจะก็อบปี้กันออกมาเลย สมัยนี้ก็ยังมีอยู่ค่ะแต่เนียนขึ้นเยอะ ^o^
จำได้ว่าสมัยก่อนจะมีนิยายแนวนอกใจกับแนวรันทด(ดรามา)เยอะมาก อ่านจนเบื่อ
มันไม่เหมาะกับวัยอันสดใสและสร้างสรรค์อย่างเราเลย 55555
แรงบันดาลใจสมัยนั้นส่วนหนึ่งก็มาจากละครภาคค่ำนั่นแหละค่ะ เห็นภาพชัดดี
55555
แต่ถ้าเราเขียนจากประสบการณ์ที่เคยสัมผัสมาบ้าง
แม้พล็อตเรื่องจะซ้ำกันแต่มันจะมีเสน่ห์ชวนติดตามและน่าตื่นเต้นมากกว่าเขียนโดยอาศัยเค้าโครงเรื่องเดิมอย่างเดียวค่ะ
ปัญหาอีกอย่างที่ทำให้พล็อตตันก็คือปัญหาชีวิตค่ะ ถ้าใครเจอปัญหานี้เข้ามาในชีวิต กำลังใจในการเขียนนิยายก็อาจจะถึงขั้นดับสูญไปเลยค่ะ ยากนะที่จะกลับมาเขียนได้อีก ต้องสร้างกำลังใจใหม่ทั้งหมด มันเหมือนกับเราจะก่อกองไฟสักกอง
แล้วเริ่มต้นด้วยการออกเดินหาเชื้อฟืนนั่นแหละค่ะ ที่ยากกว่าหาเชื้อฟืนก็คงจะเป็นตอนจุดไฟ จะไปหาเชื้อไฟมาจากไหนล่ะค่ะ ในเมื่อมันไม่มีเชื้ออะไรเหลือแล้ว ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะโชคดีมีคนมายื่นเชื้อไฟให้ในยามวิกฤติ
เขียนนิยายสมัยก่อนมันไม่มีตัวช่วยเยอะเหมือนสมัยนี้นะคะ หนังสือนิยายเป็นเล่มนี่ เป็นอะไรที่อยู่สูงกว่าเขาสอยดาวอีกค่ะ
แต่สมัยนี้มันแตกต่างจากสมัยก่อนมาก
เทคโนโลยีช่วยได้เยอะค่ะ
เรื่องแรกที่นวจันทร์เขียนจบคือเรื่อง หัวใจทะนง เขียนตามใจฉันนี่แหละ ไม่รู้จักหรอกค่ะ พล็อต – เพิ๊ด
อะไร
เพิ่งมารู้จักทีหลังเมื่อมี
พี่กู้ เข้ามาช่วย Google น่ะค่ะ คือเรื่อง
หัวใจทะนง เขียนไว้นานแล้วค่ะ เขียนเก็บไว้ในคอม พิมพ์ออกมาเป็นกระดาษเอ 4
เก็บไว้อ่านคนเดียว
แต่เพิ่งเอามาโพสต์บนเว็บเด็กดีเมื่อปี
2546
อ่านต่อตอนที่ 7