แบนเนอร์ยาว

แบนเนอร์ยาว
อีบุ๊กนิยายเรื่อง เพชรน้ำหนึ่ง โดย นวจันทร์ มีทั้งหมด 3 เล่ม โดยเล่ม 1 เปิดให้อ่านฟรี สำหรับเล่ม 3 แถมบทส่งท้ายอีก 6 บท ซึ่งไม่เคยเผยแพร่ที่ใดมาก่อน เพชรน้ำหนึ่งเป็นนิยายรักโรแมนติก มีครบทุกรส สุข เศร้า สนุกสนาน บู๊ มัน ฮา อ่านเพลินชวนติดตามตลอดเรื่อง คลิกเลย

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2565

เปิดตัวนิยายรักแห่งปี 2565 เรื่อง ย้อนเวลามารักเธออีกครั้ง โดย นวจันทร์ พร้อมโปรโมชันสุดปัง

เปิดตัวนิยายรักแห่งปี 2565 เรื่อง ย้อนเวลามารักเธออีกครั้ง โดย นวจันทร์ พร้อมโปรโมชันสุดปัง



เปิดตัวนิยายรักแห่งปี 2565 เรื่อง ย้อนเวลามารักเธออีกครั้ง โดย นวจันทร์ พร้อมโปรโมชันสุดปัง ลดสูงสุดถึง 30%-40% เริ่ม 24-31 สิงหาคม 2565 ในราคาเพียง 169 บาทเท่านั้น ด่วนมีจำนวนจำกัด รีบโหลดก่อนหมดเวลานะคะ (คลิกที่แบนเนอร์ใต้บทความค่ะ)

สวัสดีค่ะ ครั้งนี้มาพบกับนวนิยายเรื่อง ย้อนเวลามารักเธออีกครั้ง ซึ่งเป็นนวนิยายรักโรแมนติกผสมวิทยาศาสตร์กึ่งผจญภัยและมหัศจรรย์ เล่มที่ท่านถืออยู่นี้เป็นการดำเนินเรื่องต่อจากฉบับปฐมบท ถ้าอ่านฉบับเต็มแล้วไม่เข้าใจ ขอแนะนำให้ย้อนกลับไปอ่านฉบับปฐมบทก่อนค่ะ

ในเล่มนี้บอกเล่าถึงเหตุการณ์หลังจากที่เควินได้รู้ความจริงบางอย่าง ซึ่งสร้างความสับสนงุนงงให้เขาเป็นอย่างมาก สิ่งที่เขาฝังใจตลอดมา กลับกลายเป็นเรื่องสั่นคลอนจิตใจของเขาอย่างรุนแรง เขารับไม่ได้กับสิ่งที่สูญเสียไป และไม่สามารถจะทนใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้อีกต่อไป

เพื่อให้เกิดความกระจ่างและเป็นธรรมกับทุกคน เขาจึงตัดสินใจย้อนเวลากลับไปตามหาความจริงในอดีตเมื่อยี่สิบปีก่อน ครั้นเมื่อเขาได้รู้ความจริงกลับสร้างความประหลาดใจให้เขามากกว่าเดิม นึกไม่ถึงว่าในโลกนี้จะมีเหตุการณ์แปลกประหลาด ทับซ้อนอยู่ในห้วงมิติเวลาอย่างน่าพิศวง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเชิญติดตามได้ใน ย้อนเวลามารักเธออีกครั้ง

นวนิยายเรื่องนี้นักเขียนมีความตั้งใจจะให้เป็น นวนิยายรักโรแมนติกผสมวิทยาศาสตร์กึ่งผจญภัยและมหัศจรรย์ แต่ด้วยไม่ถนัดการเขียน นวนิยายแนววิทยาศาสตร์ การใช้ศัพท์เทคนิคหรือศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับฟิสิกส์หรือวิทยาศาสตร์ อาจไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ การบรรยายจึงใช้วิธีบอกเล่าไปตามจินตนาการ เพื่อให้ได้อรรถรสและเกิดความสมจริงในเหตุการณ์ของท้องเรื่อง โดยไม่ขออ้างอิงหลักการใด ๆ หวังว่านักอ่านทุกท่านคงเข้าใจ และให้อภัยนักเขียนด้วยนะคะ

สุดท้ายนี้ขอฝาก เควินและไอวี่ จากเรื่อง ย้อนเวลามารักเธออีกครั้ง ไว้ในอ้อมใจของทุกท่านด้วยค่ะ หวังว่าทุกท่านจะได้รับความสุขและสิ่งดี ๆ จากนวนิยายเรื่องนี้นะคะ ก่อนจากกันขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรง นึกถึงความสุขและสิ่งดี ๆ ที่เคยผ่านมา นำกลับมาสร้างเป็นพลังบวกอีกครั้ง ถึงเราจะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้เหมือนในนิยาย แต่เราสามารถหาแรงบันดาลใจได้จากสิ่งรอบตัว นิยายอาจเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจของท่าน ที่จะช่วยบันดาลความสุขให้กับนักอ่านทุกคน อย่าลืมหาโอกาสมาอ่านนิยายสร้างแรงบันดาลใจและสร้างพลังบวกกันนะคะ

ด้วยรักจากใจ
นวจันทร์



วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565

เตือนภัยราคาป้าย

 วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565

เตือนภัยราคาป้าย

ก่อนอื่นต้องขออภัยถ้าหากว่าจั่วหัวแรงไปสักหน่อย แต่คิดว่าเป็นเรื่องที่ควรเตือนให้รู้กันไว้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับตนเอง แต่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัว จึงเอามาเล่าสู่กันฟัง

เรื่องมีอยู่ว่าน้องสาวไปซื้อสินค้าที่ร้านขายอุปกรณ์แห่งหนึ่ง สินค้าที่ซื้อติดป้ายไว้ราคา 39 บาท แต่เมื่อไปสแกนบาร์โคดกลับเป็นอีกราคาหนึ่ง ซึ่งปกติคนซื้อส่วนใหญ่ก็จะไม่เพ่งหรือจ้องไปที่จอแสดงราคาอยู่แล้ว เพราะเห็นว่าเป็นร้านมีระบบค่อนข้างมาตรฐาน

น้องสาวต้องการได้ใบกำกับภาษี แต่ปรากฏว่าราคาในใบกำกับภาษีกลายเป็น 45 บาท เมื่อน้องสาวทักท้วง ก็ได้คำตอบจากคนเก็บเงินด้วยภาษาที่น่ารังเกียจ เธอใช้คำว่า

"พี่ไม่ดูที่หน้าจอเอง แก้ไขอะไรให้ไม่ได้" 

ไม่แปลกใจหรอกค่ะถ้าจะเจอพนักงาน สักแต่ว่าเป็นพนักงานอย่างนี้ คือไม่มีทักษะในการแก้ปัญหา หรือให้คำแนะนำแก่ลูกค้า ไม่คิดจะปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด ซึ่งเป็นความบกพร่องของทางร้าน ร้านไหนมีพนักงานอย่างนี้ก็เตรียมตัวซวยได้เลย เพราะมีพนักงานที่ไม่สร้างสรรค์อยู่ในร้าน ทำให้เสียภาพลักษณ์ขององค์กรเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าเคยทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึกอย่างนี้มากี่ครั้งแล้ว ลูกค้าเจ็บมากี่คนแล้วที่ต้องเจอกับคำพูดแย่ ๆ อย่างนี้ 

แต่ที่น่าแปลกใจก็คือเป็นถึงพนักงานในร้านที่มีชื่อเสียง มีระบบบริหารการขายที่ อืม ก็น่าจะเข้าขั้นเกือบได้มาตรฐาสากลนะ แต่ไม่มีการช่วยเหลือลูกค้าในกรณีที่เป็นความรับผิดชอบของทางร้านเลย พูดปัดส่ง ๆ ไปเสียอย่างนั้น 

เมื่อส่งเรื่องไปที่เพจก็มีแต่หุ่นยนต์ตอบกลับ มีช้อยส์ให้เลือกแค่  จะทำอะไรต่อระหว่างโปรโมชัน กับ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งมันเกี่ยวกับการสนับสนุนการขาย ไม่ใช่รับเรื่องร้องเรียน ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่ได้ใส่ใจลูกค้าอย่างจริงจัง เพราะบอตไม่สามารถตอบโต้อะไรได้มากกว่ารับเรื่องไว้แล้วก็คงเงียบหายเข้ากลีบเมฆ

โทร.ไปที่ศูนย์บริการลูกค้าก็ให้ฝากข้อความ อืม ซึ่งก็คงไม่มีผลอะไรตามมา จะโทร.เข้าบริษัทแม่ก็หมดเวลาทำงานละ แล้วยังติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์อีก สรุปว่ายังทำอะไรไม่ได้สักอย่าง 

จึงแนะนำน้องสาวไปว่าครั้งต่อไปถ้าจำเป็นต้องเข้าร้านนี้อีก คงต้องเอาสินค้าทีละชิ้นไปให้พนักงานเก็บเงินเช็กราคาให้ดูก่อน ถ้าพอใจถึงจะซื้อ มันช่วยไม่ได้นะถ้าพนักงานจะเล่นมุกนี้ ก็ต้องได้งานเพิ่มอีกนิดหนึ่ง เมื่อลูกค้านำสินค้าไปเช็กราคาก่อนซื้อ ก็ต้องเช็กให้ลูกค้าล่ะ ถ้าเห็นว่าร้านยังไม่ปรับปรุง ยังมีกลโกงราคาซ่อนอยู่ก็ให้ไปซื้อร้านอื่นเถอะ อย่าไปสนับสนุนคนโกง

เรื่องทำนองนี้ตัวฉันเองก็เคยถูกหลอกตาราคาป้ายมาแล้ว ก็จะจำไว้ว่าร้านนี้เราจะไม่เข้าอีก ยกเว้นเป็นร้านที่เรารู้ใจกันอยู่แล้ว ว่าเป็นเรื่องปกติของร้าน และเราจำเป็นต้องซื้อ เราก็จะไม่ติดใจเอาความนะ แต่ฉันไม่มีความจำเป็นต้องใช้ใบกำกับภาษี มันก็เลยไม่เป็นเรื่องต้องติดใจเอาความ

ในกรณีของน้องสาวเขาจำเป็นต้องใช้ใบกำกับภาษี มีงบประมาณราคาหนึ่งแต่กลับต้องจ่ายในราคาที่สูงกว่างบประมาณ เรื่องนี้ในความคิดเห็นส่วนตัวเป็นความรับผิดชอบของทางร้าน ที่จงใจวางป้ายราคาสินค้ากับราคาในระบบสแกนบาร์โคดไม่ตรงกัน เมื่อมีลูกค้ามาทักท้วงและรู้เห็นแล้วก็ไม่ได้คิดจะปรับปรุงแก้ไขอะไร กลับโบ้ยให้เป็นความผิดของลูกค้าว่าไม่ดูให้ดีก่อน 

เรื่องนี้ไม่มีบทสรุปนะ อยู่ที่ความคิดและมุมมองของแต่ละคน ก็แค่มาบอกเล่าเรื่องราวให้คนที่ยังไม่รู้ได้รู้ไว้ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของพนักงานที่มีเจตนาไม่ดี สำหรับใครที่ทำดีอยู่แล้วความดีของคุณมีคนมองเห็นค่ะ แต่เขาอาจเก็บไว้ในใจนะ ก็ไม่ต้องน้อยใจไป ทำดีย่อมได้ดีค่ะ แรงสะท้อนเร็วกว่าแรงกรรม

ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2565 มีความเคลื่อนไหวกลับมาจากเพจของร้าน หลังจากส่งเรื่องไปและบอตตอบกลับมาแบบอัตโนมัติ ซึ่งขณะนั้นติดวันหยุดสุดสัปดาห์ไป 2 วัน ล่าสุดมีคนติดต่อเข้ามาทางกล่องข้อความของน้องสาว บอกว่าจะส่งเรื่องให้ทางร้านสาขาพิจารณา และขอเบอร์โทร.ของน้องสาวไปด้วย ผ่านไป 3 วันแล้วค่ะ วันนี้วันที่ 25 สิงหาคม 2565 เท่าที่ทราบก็ยังไม่มีการโทร.ติดต่อกลับมานะคะ ถ้ามีความคืบหน้าอย่างไร จะมาแจ้งให้ทราบค่ะ 

ได้ข้อสรุปแล้วค่ะ ทางร้านติดต่อมาทางกล่องข้อความ บอกว่าจะคืนเงินให้ 60 บาท ให้ไปรับเงินคืนที่สาขาหรือโอนเข้าบัญชี น้องสาวจึงเลือกโอนเข้าบัญชี แต่เขาไม่ได้บอกว่าความผิดพลาดเกิดจากอะไร จึงจบเรื่องกันไปค่ะ 

สาเหตุที่ต้องร้องเรียนก็เพราะน้องสาวมีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ชนิดนี้จำนวนมาก ถ้าต้องพบเจอเหตุการณ์พนักงานขาดความรับผิดชอบอย่างนี้บ่อย ๆ นอกจากเราจะตกเป็นเหยื่อของเขาแล้ว ยังเสียความรู้สึกอีกมากมาย เพราะกลโกงที่ซ่อนอยู่ในราคาป้าย

งานนี้ก็ไม่ทราบว่าพนักงานต้องโดนตำหนิอย่างไรบ้าง แต่เรื่องนี้รู้ถึงสำนักงานใหญ่แน่นอน เขาจึงแจ้งไปที่ผู้จัดการสาขาให้ตรวจสอบดำเนินการอีกทีหนึ่ง บอกแล้วว่าร้านนี้เขามีระบบที่ได้มาตรฐานระดับสากล เขาไม่ยอมเสียชื่อเสียงกับเรื่องแค่นี้หรอก ถึงอย่างไรเขาก็ต้องรักษาฐานลูกค้าไว้ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัท 

แต่ก็ขอบคุณทั้งผู้ที่รับเรื่องร้องเรียน และผู้จัดการสาขานะคะที่ช่วยดำเนินการให้ ที่จริงก็ไม่ได้เสียดายเงินแค่ 60 บาท แต่มันเสียความรู้สึกตรงที่เราถูกหลอกด้วยกลโกงที่ซ่อนอยู่ในราคาป้าย แถมยังพบเจอกับพนักงานที่ปัดความรับผิดชอบอีก อยากจะบอกทุกคนว่าอย่าตกเป็นเหยื่อของพนักงานประเภทนี้ ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด ให้อภัยกันได้ค่ะถ้าทางร้านยอมรับว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น และปรับปรุงแก้ไข จบข่าว