แบนเนอร์ยาว

แบนเนอร์ยาว
อีบุ๊กนิยายเรื่อง เพชรน้ำหนึ่ง โดย นวจันทร์ มีทั้งหมด 3 เล่ม โดยเล่ม 1 เปิดให้อ่านฟรี สำหรับเล่ม 3 แถมบทส่งท้ายอีก 6 บท ซึ่งไม่เคยเผยแพร่ที่ใดมาก่อน เพชรน้ำหนึ่งเป็นนิยายรักโรแมนติก มีครบทุกรส สุข เศร้า สนุกสนาน บู๊ มัน ฮา อ่านเพลินชวนติดตามตลอดเรื่อง คลิกเลย

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565

เตือนภัยราคาป้าย

 วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565

เตือนภัยราคาป้าย

ก่อนอื่นต้องขออภัยถ้าหากว่าจั่วหัวแรงไปสักหน่อย แต่คิดว่าเป็นเรื่องที่ควรเตือนให้รู้กันไว้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับตนเอง แต่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัว จึงเอามาเล่าสู่กันฟัง

เรื่องมีอยู่ว่าน้องสาวไปซื้อสินค้าที่ร้านขายอุปกรณ์แห่งหนึ่ง สินค้าที่ซื้อติดป้ายไว้ราคา 39 บาท แต่เมื่อไปสแกนบาร์โคดกลับเป็นอีกราคาหนึ่ง ซึ่งปกติคนซื้อส่วนใหญ่ก็จะไม่เพ่งหรือจ้องไปที่จอแสดงราคาอยู่แล้ว เพราะเห็นว่าเป็นร้านมีระบบค่อนข้างมาตรฐาน

น้องสาวต้องการได้ใบกำกับภาษี แต่ปรากฏว่าราคาในใบกำกับภาษีกลายเป็น 45 บาท เมื่อน้องสาวทักท้วง ก็ได้คำตอบจากคนเก็บเงินด้วยภาษาที่น่ารังเกียจ เธอใช้คำว่า

"พี่ไม่ดูที่หน้าจอเอง แก้ไขอะไรให้ไม่ได้" 

ไม่แปลกใจหรอกค่ะถ้าจะเจอพนักงาน สักแต่ว่าเป็นพนักงานอย่างนี้ คือไม่มีทักษะในการแก้ปัญหา หรือให้คำแนะนำแก่ลูกค้า ไม่คิดจะปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด ซึ่งเป็นความบกพร่องของทางร้าน ร้านไหนมีพนักงานอย่างนี้ก็เตรียมตัวซวยได้เลย เพราะมีพนักงานที่ไม่สร้างสรรค์อยู่ในร้าน ทำให้เสียภาพลักษณ์ขององค์กรเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าเคยทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึกอย่างนี้มากี่ครั้งแล้ว ลูกค้าเจ็บมากี่คนแล้วที่ต้องเจอกับคำพูดแย่ ๆ อย่างนี้ 

แต่ที่น่าแปลกใจก็คือเป็นถึงพนักงานในร้านที่มีชื่อเสียง มีระบบบริหารการขายที่ อืม ก็น่าจะเข้าขั้นเกือบได้มาตรฐาสากลนะ แต่ไม่มีการช่วยเหลือลูกค้าในกรณีที่เป็นความรับผิดชอบของทางร้านเลย พูดปัดส่ง ๆ ไปเสียอย่างนั้น 

เมื่อส่งเรื่องไปที่เพจก็มีแต่หุ่นยนต์ตอบกลับ มีช้อยส์ให้เลือกแค่  จะทำอะไรต่อระหว่างโปรโมชัน กับ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งมันเกี่ยวกับการสนับสนุนการขาย ไม่ใช่รับเรื่องร้องเรียน ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่ได้ใส่ใจลูกค้าอย่างจริงจัง เพราะบอตไม่สามารถตอบโต้อะไรได้มากกว่ารับเรื่องไว้แล้วก็คงเงียบหายเข้ากลีบเมฆ

โทร.ไปที่ศูนย์บริการลูกค้าก็ให้ฝากข้อความ อืม ซึ่งก็คงไม่มีผลอะไรตามมา จะโทร.เข้าบริษัทแม่ก็หมดเวลาทำงานละ แล้วยังติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์อีก สรุปว่ายังทำอะไรไม่ได้สักอย่าง 

จึงแนะนำน้องสาวไปว่าครั้งต่อไปถ้าจำเป็นต้องเข้าร้านนี้อีก คงต้องเอาสินค้าทีละชิ้นไปให้พนักงานเก็บเงินเช็กราคาให้ดูก่อน ถ้าพอใจถึงจะซื้อ มันช่วยไม่ได้นะถ้าพนักงานจะเล่นมุกนี้ ก็ต้องได้งานเพิ่มอีกนิดหนึ่ง เมื่อลูกค้านำสินค้าไปเช็กราคาก่อนซื้อ ก็ต้องเช็กให้ลูกค้าล่ะ ถ้าเห็นว่าร้านยังไม่ปรับปรุง ยังมีกลโกงราคาซ่อนอยู่ก็ให้ไปซื้อร้านอื่นเถอะ อย่าไปสนับสนุนคนโกง

เรื่องทำนองนี้ตัวฉันเองก็เคยถูกหลอกตาราคาป้ายมาแล้ว ก็จะจำไว้ว่าร้านนี้เราจะไม่เข้าอีก ยกเว้นเป็นร้านที่เรารู้ใจกันอยู่แล้ว ว่าเป็นเรื่องปกติของร้าน และเราจำเป็นต้องซื้อ เราก็จะไม่ติดใจเอาความนะ แต่ฉันไม่มีความจำเป็นต้องใช้ใบกำกับภาษี มันก็เลยไม่เป็นเรื่องต้องติดใจเอาความ

ในกรณีของน้องสาวเขาจำเป็นต้องใช้ใบกำกับภาษี มีงบประมาณราคาหนึ่งแต่กลับต้องจ่ายในราคาที่สูงกว่างบประมาณ เรื่องนี้ในความคิดเห็นส่วนตัวเป็นความรับผิดชอบของทางร้าน ที่จงใจวางป้ายราคาสินค้ากับราคาในระบบสแกนบาร์โคดไม่ตรงกัน เมื่อมีลูกค้ามาทักท้วงและรู้เห็นแล้วก็ไม่ได้คิดจะปรับปรุงแก้ไขอะไร กลับโบ้ยให้เป็นความผิดของลูกค้าว่าไม่ดูให้ดีก่อน 

เรื่องนี้ไม่มีบทสรุปนะ อยู่ที่ความคิดและมุมมองของแต่ละคน ก็แค่มาบอกเล่าเรื่องราวให้คนที่ยังไม่รู้ได้รู้ไว้ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของพนักงานที่มีเจตนาไม่ดี สำหรับใครที่ทำดีอยู่แล้วความดีของคุณมีคนมองเห็นค่ะ แต่เขาอาจเก็บไว้ในใจนะ ก็ไม่ต้องน้อยใจไป ทำดีย่อมได้ดีค่ะ แรงสะท้อนเร็วกว่าแรงกรรม

ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2565 มีความเคลื่อนไหวกลับมาจากเพจของร้าน หลังจากส่งเรื่องไปและบอตตอบกลับมาแบบอัตโนมัติ ซึ่งขณะนั้นติดวันหยุดสุดสัปดาห์ไป 2 วัน ล่าสุดมีคนติดต่อเข้ามาทางกล่องข้อความของน้องสาว บอกว่าจะส่งเรื่องให้ทางร้านสาขาพิจารณา และขอเบอร์โทร.ของน้องสาวไปด้วย ผ่านไป 3 วันแล้วค่ะ วันนี้วันที่ 25 สิงหาคม 2565 เท่าที่ทราบก็ยังไม่มีการโทร.ติดต่อกลับมานะคะ ถ้ามีความคืบหน้าอย่างไร จะมาแจ้งให้ทราบค่ะ 

ได้ข้อสรุปแล้วค่ะ ทางร้านติดต่อมาทางกล่องข้อความ บอกว่าจะคืนเงินให้ 60 บาท ให้ไปรับเงินคืนที่สาขาหรือโอนเข้าบัญชี น้องสาวจึงเลือกโอนเข้าบัญชี แต่เขาไม่ได้บอกว่าความผิดพลาดเกิดจากอะไร จึงจบเรื่องกันไปค่ะ 

สาเหตุที่ต้องร้องเรียนก็เพราะน้องสาวมีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ชนิดนี้จำนวนมาก ถ้าต้องพบเจอเหตุการณ์พนักงานขาดความรับผิดชอบอย่างนี้บ่อย ๆ นอกจากเราจะตกเป็นเหยื่อของเขาแล้ว ยังเสียความรู้สึกอีกมากมาย เพราะกลโกงที่ซ่อนอยู่ในราคาป้าย

งานนี้ก็ไม่ทราบว่าพนักงานต้องโดนตำหนิอย่างไรบ้าง แต่เรื่องนี้รู้ถึงสำนักงานใหญ่แน่นอน เขาจึงแจ้งไปที่ผู้จัดการสาขาให้ตรวจสอบดำเนินการอีกทีหนึ่ง บอกแล้วว่าร้านนี้เขามีระบบที่ได้มาตรฐานระดับสากล เขาไม่ยอมเสียชื่อเสียงกับเรื่องแค่นี้หรอก ถึงอย่างไรเขาก็ต้องรักษาฐานลูกค้าไว้ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัท 

แต่ก็ขอบคุณทั้งผู้ที่รับเรื่องร้องเรียน และผู้จัดการสาขานะคะที่ช่วยดำเนินการให้ ที่จริงก็ไม่ได้เสียดายเงินแค่ 60 บาท แต่มันเสียความรู้สึกตรงที่เราถูกหลอกด้วยกลโกงที่ซ่อนอยู่ในราคาป้าย แถมยังพบเจอกับพนักงานที่ปัดความรับผิดชอบอีก อยากจะบอกทุกคนว่าอย่าตกเป็นเหยื่อของพนักงานประเภทนี้ ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด ให้อภัยกันได้ค่ะถ้าทางร้านยอมรับว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น และปรับปรุงแก้ไข จบข่าว