วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน 2565
ให้รู้จักปฏิเสธบ้างนะ
วันนี้โดนแต่เช้า เบอร์โทร.ที่ไม่คุ้นเคยโทร.เข้ามา แล้วฉันก็รับสายเพราะคิดว่าอาจเป็นเพื่อนโทร.มา แต่ที่ไหนได้กลายเป็นใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จัก เธอแนะนำตัวว่าโทร.จากบริษัทมิวสิก...อะไรสักอย่าง ตอนพูดชื่อบริษัทนี่ลิ้นคงพันกันยุ่ง ฉันฟังไม่ถนัดจึงถามซ้ำว่าบริษัทอะไรนะคะ เธอก็บอกชื่อบริษัทมาอีกที แต่ก็ยังฟังไม่รู้เรื่องอยู่ดี จะเล่าตอนที่สนทนากันให้ฟังก็แล้วกันนะ
เธอ : โทร.จากบริษัท...
ฉัน : บริษัทอะไรนะคะ
เธอ : บริษัท...(ลิ้นแข็ง ๆ เหมือนพยายามดัดเสียงเต็มที่ แต่ก็พูดไทยชัดอยู่)
ฉัน : (ตูฟังไม่รู้เรื่อง) ค่ะ แล้วยังไงคะ
เธอ : คุณได้รับสิทธิพิเศษเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ทางเราจะส่งข้อความให้ทาง sms ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป...(เธอพูดยังไม่ทันจบฉันก็รีบแทรกขึ้นว่า)
ฉัน : ไม่รับค่ะ ไม่รับค่ะ ไม่ต้องส่งมานะคะ...
พูดยังไม่ทันจบเลยค่า คุณเธอก็ตัดสายทิ้งฉับเลย ไม่ชี้แจง ไม่ล่ำลา ฉันก็นึกในแง่ดีว่า เออ ก็ดีเนาะ ไม่เยิ่นเย้อดี ตูรอดละ ฮ่าๆ
โถ ท่านผู้อ่านคะ สมัยนี้คอลเซนเตอร์มิจฉาชีพระบาดรุนแรงยิ่งกว่าไวรัสโคโรนา ใครจะไปกล้ารับสิทธิพิเศษของเธอคะ ถ้าส่ง sms มาแล้ว ให้กดโน่นกดนี่ แล้วหลอกดูดเอาข้อมูลในโทรศัพท์ของฉันไป ฉันไม่ซวยเหรอคะ ยังไงก็ไม่รับค่ะ ใครเจอแบบนี้ให้ปฏิเสธไปนะคะ อย่าไปเกรงใจ เราต้องรู้จักปฏิเสธบ้างนะคะ เพื่อความปลอดภัยของเรา จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าไม่น่าเชื่อมันอย่างโน้นอย่างนี้ เราต้องป้องกันตนเองไว้ก่อนค่ะ
ก็ไม่รู้นะว่าเธอเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม แต่ฉันขอปฏิเสธไว้ก่อนค่ะ การจะทำธุรกรรมอะไร ถ้าไม่ใช่คนรู้จักกันจริง ๆ และได้เห็นหน้าพูดคุยซักถามกันให้เข้าใจ ยังไงก็ต้องปฏิเสธไว้ก่อนค่ะ เพราะยุคที่คอลเซนเตอร์มิจฉาชีพระบาด เราไว้ใจใครไม่ได้เลยจริง ๆ ค่ะ
อย่าไปหลงเชื่อกลโกงของคนเห็นแก่ตัวพวกนี้ มันขู่มาเราก็อย่าไปฟังมัน วางสายไปเลยค่ะ อย่ามัวแต่ใจสั่นเพราะกลัวเสียงข่มขู่ กดวางสายไปเลยค่ะ ฉันเคยเจอมาบ้าง แต่ไม่เคยให้คุณค่าอะไรกับคนเห็นแก่ตัวพวกนี้เลย กดสายทิ้งตลอด เราต้องปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ